ความแตกกันระหว่างสินเชื่อรถ กับ สินเชื่อบ้าน
- ส่วนของดอกเบี้ย สินเชื่อรถโดยส่วนใหญ่ส่วนจะการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ตลอดระยะเวลาหรือที่เรียกว่า Flat Rate จ่ายเยอะดอกเบี้ยก็ไม่ลดตาม แต่สินเชื่อบ้านจะคิดดอกเบี้ยเป็นแบบลดต้นลดดอกไปเรื่อยๆ จ่ายเยอะ เงินต้นลดก็เท่ากับดอกเบี้ยจะลดตามเงินต้นที่คงเหลือ
- ในกรณียังผ่อนสินเชื่ออยู่ทั้งสินเชื่อรถ และสินเชื่อบ้าน ถ้าเป็นสินเชื่อรถที่ผ่อนอยู่เกิดต้องการจะรีไฟแนนซ์โดยการเปลี่ยนไฟแนนซ์ไปที่แห่งใหม่นั้น ระหว่างที่เดิมและที่ใหม่เค้าจะไม่รับโอนหนี้ซึ่งกันและกันผู้ที่ผ่อนสินเชื่อรถอยู่นั้นจะต้องนำเงินสดไปเคลียร์ชำระหนี้คงค้างเดิมให้เรียบร้อยเพื่อที่จะได้รับเล่มทะเบียนรถเพื่อส่งโอนเข้าไฟแนนซ์รถแห่งใหม่ ซึ่งแตกต่างกับสินเชื่อบ้านเมื่อถึงช่วงเวลาที่จะต้องการย้ายสินเชื่อบ้านไปที่แห่งใหม่ด้วยเหตุผลที่ดอกเบี้ยดีกว่าที่เดิม สินเชื่อบ้านที่แห่งใหม่จะรับโอนหนี้จากที่เก่าโดนจ่ายชำระหนี้เป็นเช็คให้กับไฟแนนซ์บ้านแห่งใหม่ในวันที่นัดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน
- ระยะเวลาในการผ่อนสินเชื่อ สำหรับสินเชื่อรถผ่อนได้สูงสุดแค่6ปีหรือ7ปี แต่ว่าสินเชื่อบ้านสามารถเลือกผ่อนได้ระยะสูงสุดถึง 30ปี
- มูลค่าในทรัพย์สิน บ้านหรือที่ดินมีค่าความเสื่อมราคาน้อย ยิ่งเวลาผ่านไปมูลค่าในที่ดินอาจจะเพิ่มขึ้นหรือเท่าเดิมหรือลดน้อยลงนิดหน่อย เมื่อเปรียบกับรถยนต์แล้วมีค่าความเสื่อมสูง รถยนต์ที่ใหม่ก็จะมีราคาแพงกว่ารถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมาก
ไม่ว่าจะกู้เงินขอสินเชื่อรถและสินเชื่อบ้านจะเหมือนหรือแตกต่างกันก็ตาม เมื่อไม่ผ่อนสินเชื่อ ค้างค่างวด ก็จะมีเบี้ยปรับ ถ้าหนักๆเข้าค้างค่างวดหลายๆงวด ก็อาจถึงขั้นโดนยึดส่งเรื่องฟ้องศาลและขายทอดตลาดกันไปและจะทำให้ติดแบล็คลิสต์ ประวัติเครดิตบูโรเสียไปเลย ในอนาคตจะทำเรื่องขอเงินกู้อะไรก็จะเป็นไปได้ยาก ดังนั้นควรที่จะรักษาประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อไว้ให้ดีเป็นสิ่งการันตีว่าตัวเรามีระเบียบวินัยทางการเงินสูงแล้วการขอกู้เงินในครั้งหน้าก็จะเป็นไปได้ด้วยดี