ลองคิดดูว่าบ้านและที่ดินเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าคงเดิมและมีการเพิ่มมูลค่าขึ้นได้ตลอดเวลา และลองนำมาเปรียบกับรถยนต์ที่มีความค่าเสื่อมราคาของรถลดลงทุกปีรถซื้อปี2555ราคา500000 เมื่อไปปี2558ราคารถอาจจะเหลือไม่ถึง400000 หากเปรียบกับที่ดินแล้วราคาที่มีแต่คงตัวกับเพิ่มขึ้น
ในมุมมองทางธุรกิจคิดถึงความเสี่ยงถ้าเป็นที่ดินรับซื้อมาอย่างไรแล้วก็ไม่มีทางขาดทุน แต่ถ้าเป็นรถยนต์รับซื้อมาแล้วไม่ได้ขายพอนานปีเข้าอาจจะขาดทุนก็เป็นได้ ถ้ารับโอนนี้รีไฟแนนซ์รถมาแล้วเกิดผู้ขอรีไฟแนนซ์ไม่ผ่านกว่าที่จะตามยึดรถได้ก็อาจจะเป็นปีอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการขาดทุนเมื่อนำรถยนต์ไปขายทอดตลาดจึงเป็นเหตุให้การรีไฟแนนซ์รถจึงไม่รับโอนหนี้ผู้ที่ขอรีไฟแนนซ์โดยการย้ายไฟแนนซ์รถจะต้องรับผิดชอบในการเคลียร์ภาระที่เดิมเองให้หมดเพื่อที่จะได้เล่มทะเบียนและนำเล่มทะเบียนรถที่ได้ส่งต้องเพื่อทำเรื่องรีไฟแนนซ์รถให้สมบูรณ์ทางสถาบันการเงินแห่งใหม่ที่รับเรื่องรีไฟแนนซ์รถจึงจะสั่งจ่ายเช็คให้ ดังนั้นสถาบันการเงินจึงรับรถยนต์ที่ปลอดภาระผ่อนในการขอสินเชื่อรถยนต์ทุกคันhttp://five4cash.com/finance2.html